5 วิธีบรรเทาอาการปวดกระเพาะอาหารที่บ้านอย่างรวดเร็วและได้ผลดีที่สุด

ในปัจจุบัน อาการปวดกระเพาะอาหารถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในยุคสมัยนี้ โดยมีอาการต่างๆ เช่น ปวดหน่วงๆ ปวดบีบเป็นช่วงๆ และรู้สึกแสบร้อนบริเวณกระเพาะอาหาร แล้วจะรับมือกับอาการปวดกระเพาะอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพได้อย่างไรเมื่ออยู่ที่บ้าน? ขอเชิญทุกท่านติดตามบทความด้านล่างนี้!

1.โรคปวดกระเพาะอาหารคืออะไร?

โรคปวดกระเพาะอาหารคือภาวะที่เยื่อบุของกระเพาะอาหารเกิดการระคายเคือง อักเสบ หรือเป็นแผล ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงๆ และไม่สบายในช่องท้องส่วนบน

โรคปวดกระเพาะอาหารนับเป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อยที่สุด ปัจจุบันในประเทศไทย อัตราการเกิดโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย

2.สาเหตุของอาการปวดกระเพาะอาหาร

มีหลายปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดอาการปวดกระเพาะอาหาร โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่:

  • การติดเชื้อแบคทีเรียเอชพี (Helicobacter Pylori): แบคทีเรียเอชพีสามารถเข้าสู่กระเพาะอาหารได้ง่าย และเป็นแบคทีเรียชนิดเดียวที่สามารถอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่มีกรดเข้มข้นในกระเพาะอาหารได้ มันจะหลั่งสารพิษที่ทำลายเยื่อบุและก่อให้เกิดการอักเสบหรือแผลในกระเพาะอาหาร
  • พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม: การกินอาหารมากเกินไป กินเร็ว กินไม่เป็นเวลา หรือการงดอาหาร มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดกระเพาะ รวมถึงการกินอาหารที่เผ็ดจัด มันจัด หรือมีเครื่องปรุงรสมากเกินไป
  • ความเครียดและความกดดันต่อเนื่อง: เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียดเป็นเวลานาน กระเพาะอาหารจะหลั่งกรดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการบีบตัวและกระตุ้นให้อาการแย่ลง
  • การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของกระเพาะอาหาร แอลกอฮอล์จะทำลายเยื่อบุของกระเพาะอาหารและทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น
  • การใช้ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดมากเกินไป: ยาประเภทนี้สามารถกัดกร่อนเยื่อบุของกระเพาะอาหารโดยตรง และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยโดยตรง

3. วิธีบรรเทาอาการปวดกระเพาะอาหารทันทีที่บ้าน

3.1. ประคบร้อนบริเวณท้อง

หากเกิดอาการปวดกระเพาะอย่างกะทันหัน ให้ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณหน้าท้อง ความร้อนจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น ในกรณีที่ไม่มีถุงประคบ สามารถใช้น้ำอุ่นใส่ขวดพลาสติกหรือขวดแก้วมาประคบแทนได้ อีกวิธีหนึ่งคือการนำเกลือไปคั่วให้ร้อนแล้วใส่ถุงผ้าประคบบริเวณท้อง วิธีนี้จะช่วยลดการหดเกร็งของกระเพาะอาหาร และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

3.2. การนวดท้อง

การนวดท้องช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดได้วิธีการนวดนี้ค่อนข้างง่าย: วางมือของคุณไว้ใต้หน้าอกแล้วค่อยๆ เคลื่อนมือลงมาที่ท้องตามทิศทางเข็มนาฬิกา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณสามารถเติมน้ำมันหม่องลงในฝ่ามือแล้วนวดต่อไปจนรู้สึกว่าท้องอุ่นขึ้น นวดประมาณ 10 นาทีจะช่วยบรรเทาอาการปวด

3.3. นอนตะแคง

เมื่ออาการปวดท้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง วิธีที่ดีที่สุดคือให้คุณใจเย็นๆ ค่อยๆ นอนลงบนเตียงและพยายามหมุนตัวไปทางซ้าย ในขณะนี้ลำไส้จะถูกยกขึ้นช่วยให้การย่อยอาหารง่ายขึ้นและลดการอักเสบในกระเพาะอาหาร คุณต้องระวังไม่ให้นอนหลังรับประทานอาหารทันที เพราะจะทำให้ท้องอืดและย่อยอาหารได้ยาก

3.4. การดื่มน้ำเกลืออุ่น

น้ำเกลืออุ่นช่วยรักษาสมดุลของเลือดและเพิ่มความสามารถในการปกป้องกระเพาะอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ น้ำอุ่นยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องชั่วคราว คุณสามารถผสมน้ำเกลืออุ่นแล้วดื่มวันละ 2 ครั้ง

3.5. การเดิน

หนึ่งในวิธีที่แพทย์แนะนำในการรักษาอาการปวดท้องคือการเดินหลังจากรับประทานอาหาร การเดินช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้เร็วขึ้นและขับลมออกจากท้องได้ง่าย ช่วยลดอาการท้องอืดและความรู้สึกไม่สบาย

3.6. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

หนึ่งในวิธีป้องกันการปวดท้องคือการสร้างพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง, ทานผักใบเขียวและผลไม้ให้มาก และหลีกเลี่ยงอาหารที่รสเผ็ดร้อนหรือมีไขมันมาก

นอกจากนี้ ควรแบ่งมื้ออาหารให้เล็กลงเพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นและลดอาการปวดท้องที่เกิดจากกระเพาะอาหาร

ทานอาหารที่นิ่มและย่อยง่าย, ทานช้าๆ และเคี้ยวให้ละเอียดเพื่อลดภาระที่กระเพาะอาหารต้องรับ

ดร. อมรรัตน์ วงศ์สุข
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและระบบทางเดินอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

QR lớn
LINE QR
+66931587658